อำพันจากทะเล หรือ Ambergris หลายคนคงจะสงสัยว่ามันคืออะไรใช่มั้ยครับ มันคือก้อนแร่หรืออะไรเหรอ แล้วมันใช้ทำอะไร ใครรู้บ้างเนี่ย หากเอ่ยถึง "ขี้ปลาวาฬ" หลายคนคงจะงงว่าทำไมเหรอขี้ปลาวาฬ มันเอาไว้ใช้ทำอะไร วันนี้เราจะมาบอกกล่าวกันเลย เปิดข้อสงสัยขี้ปลาวาฬกัน
ขี้ปลาวาฬหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "อำพัน" เป็นสารที่ขับออกมาจากวาฬหัวทุย โดยวาฬชนิดนี้กินปลาหมึกเป็นอาหารหลัก ไขมันปลาหมึกที่ย่อยสลายไม่ได้จะถูกสะสมบริเวณลำไส้และถูกขับถ่ายออก โดยเมื่อแรกที่ถูกขับจะมีกลิ่นเหม็น แต่เมื่อเวลาผ่านไปเป็นเดือนหรือเป็นปี ได้เกิดปฏิกิริยากับอากาศแสงแดด ระหว่างล่องลอยอยู่ในทะเล แต่ด้วยค่าความถ่วงจำเพาะที่มีน้อยกว่าน้ำทะเลจึงมีคุณสมบัติทางเคมีเปลี่ยนไป ทำให้มีลักษณะเป็นก้อนแข็งสีขาว น้ำตาล เทา หรือดำ ตามระยะเวลาในการทำปฏิกิริยา ละลายที่อุณหภูมิมากกว่า 62 องศาเซลเซียส แต่ด้วยอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส จะระเหยเป็นไอ ลักษณะพิเศษของ ขี้ปลาวาฬ (Ambergris) คือ มีกลิ่นหอมคล้ายสารจำพวกน้ำมันหอมระเหย ด้วยเหตุนี้บริษัทผลิตน้ำหอมต่างๆจึงใช้เป็นวัตถุดิบในการสกัดหัวน้ำหอม เอาไปเป็นส่วนประกอบของน้ำหอม หรือนำไปแต่งกลิ่นในอาหารหรือไวน์ เป็นที่ต้องการของตลาด จึงทำให้อำพันมีมูลค่าสูงมากถึงกิโลกรัมละหลายหมื่นบาท
เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวว่าได้พบขี้ปลาวาฬเป็นจำนวนมากทางฝั่งทะเลอันดามันของไทยที่บริเวณเกาะระ ด้วยการมาของขี้ปลาวาฬหรืออำพันตามที่ชาวบ้านเรียกขานกันมานานนั้น แสดงให้เห็นว่าชายฝั่งทะเลอันดามันยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เป็นแหล่งอาศัยและหากินของวาฬ และสัตว์ทะเลหายาก ซึ่งใกล้สูญพันธุ์อีกหลายชนิด นอกจากจะมีคุณค่าทางธรรมชาติแล้ว ยังจะก่อให้เกิดผลดีกับการท่องเที่ยวของอันดามัน ที่สำคัญไปกว่านั้นคือมีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยที่พบเห็นวาฬหัวทุย ยาวประมาณ 20 เมตร น้ำหนักมากกว่า 15 ตัน ในทุกปี และวาฬดังกล่าวจะปล่อยไขมันภายในร่างกายหรืออำพันออกมา ซึ่งปีนี้ถือว่ามีปริมาณมากกว่าทุกปี และเป็นก้อนขนาดใหญ่ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่า 300 กิโลกรัม ยังมีชาวประมงอีกหลายคนเคยพบเห็นวาฬขนาดใหญ่บ่อยครั้งมาก และบางครั้งก็ว่ายเข้ามาใกล้ๆ กับเรือประมง อำพันที่พบครั้งนี้ถือว่าเป็นก้อนอำพันที่สมบูรณ์มาก ซึ่งการที่ขี้ปลาวาฬ หรือ อำพันถูกพัดเข้ามาบริเวณชายฝั่งทะเล ไม่ใช่ลางบอกเหตุร้าย และก็ไม่สามารถเชื่อมโยงได้ว่าจะเป็นลางไม่ดีอย่างที่ประชาชนบางกลุ่มเข้าใจแต่อย่างใด หากทว่าเป็นเครื่องการันตีถึงชายทะเลและชายฝั่งของอันดามันที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาศัยและหากินของสัตว์น้ำนานาชนิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น