น้ำหอม เครื่องสำอางค์ที่ให้ความหอมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
หากเอ่ยถึง น้ำหอม คงไม่มีใครไม่รู้จัก ของเหลวที่เรียกว่า น้ำหอม มีหลากสีสันมีความหอมในตัวเองและระยะเวลาความหอมที่ยาวนาน น้ำหอม มีมาตั้งแต่ในสมัยอียิปโบราณ จากรูปวาดฝาผนังที่วิหารของพระราชินี Hatshepsut ที่เมือง Thebes เป็นรูปหญิงสาวกำลังชโลมน้ำหอมลงบนหัว เชื่อว่าน้ำหอมนี้ นักเดินเรือชาวอียิปได้นำมาจากที่อื่น ชาวอียิปมีวิวัฒนาการด้านน้ำหอม โดยการนำสิ่งที่ให้ความหอมมาปรุงในอาหารและนำมาบูชาเทพเจ้าอีกด้วย ซึ่งต่อมาได้เป็นสิ่งจำเป็นในการประกอบพิธีต่างๆ ชาวโรมันเชื่อว่า น้ำหอม สามารถบำบัดโรคภัยบางโรคได้ ในศตวรรษที่ 16 เป็นยุคของแฟชั่น มีการรวมตัวกันระหว่าง ถุงมือ และ น้ำหอม กลายเป็นถุงมือหอม แม้ว่าสมัยกลางของยุโรปได้มีการชำระล้างร่างกายเป็นประจำ แต่ก็ได้ละเลยมานานมากแล้ว น้ำหอมจึงเป็นที่ต้องการของผู้คนที่ต้องการมาดับกลิ่นบางกลิ่น ในศตวรรษที่ 17 มัสท์ หรือสารที่ให้ความหอมที่ได้จากสัตว์ประเภทชะมดได้กลายมาเป็นส่วนประกอบในน้ำหอม กลิ่นผลไม้ดอกไม้ก็ค่อยๆได้รับความนิยม ในศตววษที่ 18 – 19 น้ำหอมได้มีการพัฒนาไปหลากหลายรูปแบบ การผลิตน้ำหอมในเชิงการค้า ได้เกิดขึ้น ณ ประเทศฝรั่งเศส เมืองที่ชื่อว่า Grasse ท่ามกลางความมั่งคั่งทางการค้า น้ำหอม แสดงถึงความมีฐานะ หรูหรา ในศตวรรษที่ 19 นักเคมีได้สังเคราะห์สารหลายตัวที่ให้ความหอมแตกต่างกันไป จนน้ำหอมได้กระจายไปทั่วโลก กลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่โต ปัจจุบัน น้ำหอมมีส่วนประกอบหลักเป็นแอลกอฮอล์ แต่ในสมัยก่อนมิใช่อย่างนั้น ในสมัยนั้นใช้เผาเพื่อให้ได้กลิ่นหอม ใช้เป็นขี้ผึ้งทาตัว ตลอดจนเผาไม้หอม เครื่องเทศ ผลไม้แห้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งกลิ่นหอมนานาชนิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น