ประวัติองค์กร Fragrance Foundation
องค์กร Fragrance Foundation ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1949 ด้วยความร่วมมือกันของกลุ่มผู้นำในวงการธุรกิจอุตสาหกรรมผู้ผลิตน้ำหอมซึ่งประกอบด้วย Elizabeth Arden,Coty, Guerlain,Helena Rubenstein,Chanel และ Parfums Weil โดยองค์กร Fragrance Foundation นี้มีจุดประสงค์หลักขององค์กรคือเพื่อสร้างให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญและ ความน่าพึงพอใจของกลิ่นและน้ำหอมให้เป็นที่รับรู้กันในหมู่ประชาชนชาวอเมริกัน
ซึ่งในทุกวันนี้อเมริกาได้กลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของวงการธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำหอมซึ่งทำให้องค์กร Fragrance Foundation ได้กลายเป็นแหล่งให้ความรู้ ข่าวสารต่างๆซึ่งเป้นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางทั้งในหมู่เหล่าเจ้าของธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำหอมและ ประชาชนทั่วไปอีกด้วย
โดยข้อมูลหรือข่าวสารเกี่ยวกับน้ำหอมที่องค์กร Fragrance Foundation ได้รวบรวมไว้นั้นมีอยู่หลากหลายด้านไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับวัสดุหรือ สารตั้งต้นในการผลิตน้ำหอมต่างๆอีกด้วย
ซึ่งในทุกวันนี้อเมริกาได้กลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของวงการธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำหอมซึ่งทำให้องค์กร Fragrance Foundation ได้กลายเป็นแหล่งให้ความรู้ ข่าวสารต่างๆซึ่งเป้นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางทั้งในหมู่เหล่าเจ้าของธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำหอมและ ประชาชนทั่วไปอีกด้วย
โดยข้อมูลหรือข่าวสารเกี่ยวกับน้ำหอมที่องค์กร Fragrance Foundation ได้รวบรวมไว้นั้นมีอยู่หลากหลายด้านไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับวัสดุหรือ สารตั้งต้นในการผลิตน้ำหอมต่างๆอีกด้วย
บทบาทและ ผลงานขององค์กร Fragrance Foundation
ในปัจจุบันองค์กร Fragrance Foundation เป็นองค์กรระดับนานาชาติที่มีสมาชิกมากมายซึ่งมีทั้ง เหล่า นักปรุงน้ำหอม ผู้ผลิตวัตถุดิบ นักธุรกิจในวงการอุตสหรรมน้ำหอม นักออกแบบผลิตภัณฑ์ กลุ่มอุตสาหกรรมขนส่ง ผู้ผลิตสื่อโฆษณา และกลุ่มสื่อมวลชน
สิ่งที่ถือเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งขององค์กร Fragrance Foundation ก็คือการเป็นเจ้าภาพจัดงานมอบรางวัลและ ประกาศผลรางวัล FiFi Award ซึ่งถือเป็นงานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการอุตสาหกรรมน้ำหอมเลยทีเดียว โดยงาน FiFi Award นี้จะจัดในช่วงฤดูใบไม้ผลิตหรือต้นฤดูร้อนของทุกปี
ส่วนในด้านการศึกษาองค์กร Fragrance Foundation ได้ทำการรวบรวมข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับน้ำหอมไว้มากมายเช่น ห้องสมุดกลิ่น ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลที่เป็นทั้งหนังสือ รูปภาพและสื่อผสมต่างๆ ไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อีกทั้งยังได้ทำประโยชน์ให้กับวงการอุตสาหกรรมน้ำหอมในหลายด้าน โดยองค์กรนี้ได้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการสนับสนุนการศึกษา การอบรม การส่งเสริมการโฆษณา และจัดสัมนาต่างๆให้กับบริษัทต่างๆที่เป็นสมาชิกอีกด้วย
บทบาทในการสนับสนุนทางด้านการศึกษา,วิจัยพัฒนาและ เผยแพร่องค์ความรู้ที่เกี่ยวกับเรื่องกลิ่นและ น้ำหอมนั้น องค์กร Fragrance Foundation ได้ทำการก่อตั้งสถาบัน Sense Of Smell Institute ขึ้นในปี 1981ซึ่งได้พัฒนามาจากบริษัทกองทุนงานวิจัยเกี่ยวกับกลิ่นซึ่งแต่เดิมใช้ชื่อว่า Olfactory Research Fund โดยสถาบันนี้ได้ทำหน้าที่เป็นแหล่งผลิตงานวิจัยในสาขาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกลิ่นให้กับทั้งตัวองค์กร Fragrance Foundation เอง
นอกจากนั้นทางสถาบันยังได้ทำการแลกเปลี่ยนข่าวสารและ แบ่งปันความรู้ที่ได้จากผลงานวิจัยของสถาบันที่ได้มาให้กับองค์กรอื่นๆเช่น เหล่าผู้ทำธุรกิจอุตสหกรรมน้ำหอม สถาบันการศึกษา สถาบันค้นคว้าวิจัย รวมทั้งโรงพยาบาล ต่างๆทั่วโลกอีกด้วย
ส่วนในด้านการศึกษาองค์กร Fragrance Foundation ได้ทำการรวบรวมข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับน้ำหอมไว้มากมายเช่น ห้องสมุดกลิ่น ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลที่เป็นทั้งหนังสือ รูปภาพและสื่อผสมต่างๆ ไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อีกทั้งยังได้ทำประโยชน์ให้กับวงการอุตสาหกรรมน้ำหอมในหลายด้าน โดยองค์กรนี้ได้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการสนับสนุนการศึกษา การอบรม การส่งเสริมการโฆษณา และจัดสัมนาต่างๆให้กับบริษัทต่างๆที่เป็นสมาชิกอีกด้วย
บทบาทในการสนับสนุนทางด้านการศึกษา,วิจัยพัฒนาและ เผยแพร่องค์ความรู้ที่เกี่ยวกับเรื่องกลิ่นและ น้ำหอมนั้น องค์กร Fragrance Foundation ได้ทำการก่อตั้งสถาบัน Sense Of Smell Institute ขึ้นในปี 1981ซึ่งได้พัฒนามาจากบริษัทกองทุนงานวิจัยเกี่ยวกับกลิ่นซึ่งแต่เดิมใช้ชื่อว่า Olfactory Research Fund โดยสถาบันนี้ได้ทำหน้าที่เป็นแหล่งผลิตงานวิจัยในสาขาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกลิ่นให้กับทั้งตัวองค์กร Fragrance Foundation เอง
นอกจากนั้นทางสถาบันยังได้ทำการแลกเปลี่ยนข่าวสารและ แบ่งปันความรู้ที่ได้จากผลงานวิจัยของสถาบันที่ได้มาให้กับองค์กรอื่นๆเช่น เหล่าผู้ทำธุรกิจอุตสหกรรมน้ำหอม สถาบันการศึกษา สถาบันค้นคว้าวิจัย รวมทั้งโรงพยาบาล ต่างๆทั่วโลกอีกด้วย
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก
http://www.ohperfume.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น